ความมุ่งหมายของนโยบาย

เรา ในฐานะผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลแยกต่างหากจาก บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "ฮอนด้าออโตโมบิล") มีความมุ่งหวังที่จะให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในการให้บริการแก่ลูกค้ารถยนต์ฮอนด้าอย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน

ขอบเขตของนโยบาย

นโยบายฉบับนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในการติดต่อสื่อสารและให้บริการของเราในฐานะผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลกับ:

• บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
• บริษัทฮอนด้าออโตโมบิล อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
• บริษัทอื่นในเครือของฮอนด้า
• ผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้ารายอื่นๆ
• โซเชียลมีเดีย และช่องทางอื่น ๆ

กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลส่วนบุคคลอาจครอบคลุมถึงบุคคลดังต่อไปนี้:

• ลูกค้าบุคคลธรรมดา (ทั้งในอนาคตและปัจจุบัน)
• บุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล เช่น:
  • บุคคลผู้มีอำนาจดำเนินการ
  • กรรมการ
  • ผู้ถือหุ้น
  • พนักงาน
  • บุคลากร
  • ผู้รับผลประโยชน์
  • ผู้ได้รับมอบอำนาจ
• ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์/โซเชียลมีเดีย
• บุคคลอื่น เช่น:
  • สมาชิกในครอบครัว
  • คู่สมรส
  • ผู้ที่อยู่ในอุปการะ
  • ผู้จ่ายเบี้ยประกัน
  • ผู้รับโอน
  • พยาน
  • ผู้ร้องเรียน

ข้อจำกัดในการให้บริการ

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำเท่าที่จำเป็น เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการตามที่ท่านร้องขอ หรือเพื่อตามข้อกำหนดทางกฎหมายหรือสัญญา หากท่านปฏิเสธการให้ข้อมูลที่จำเป็น อาจส่งผลให้ไม่สามารถให้บริการหรือจัดหาผลิตภัณฑ์ได้อย่างเต็มที่

การเปลี่ยนแปลงนโยบาย

นโยบายนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว โดยนโยบายที่ปรับปรุงแล้วจะประกาศผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของเรา หากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกี่ยวข้องกับท่าน เราจะแจ้งให้ทราบและขอความยินยอมใหม่ตามความจำเป็น

1. ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวม

ในนโยบายฉบับนี้ "ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หรือตามที่นิยามไว้ในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ โดยข้อมูลที่เราจะเก็บรวบรวมขึ้นอยู่กับปฏิสัมพันธ์ที่เรามีกับท่าน

• ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลสำหรับติดต่อ:

  คำนำหน้าชื่อ, ชื่อและนามสกุล, ชื่อเล่น, เพศ, วันเกิด, อายุ, สัญชาติ, อาชีพ, สถานที่ทำงาน, ลักษณะงานที่ทำ, รายได้, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, ที่อยู่, บัญชีโซเชียลมีเดีย, รหัสลูกค้า, สถานภาพลูกค้า, ภาพถ่าย, ภาพเคลื่อนไหว, เสียง, CCTV, น้ำหนัก, ส่วนสูง, สถานภาพสมรส

• ข้อมูลในเอกสารทางราชการ:

  ข้อมูลและ/หรือสำเนาบัตรประชาชน, หนังสือเดินทาง, ใบขับขี่, เอกสารเปลี่ยนแปลงชื่อ-ที่อยู่, สำเนาทะเบียนบ้าน

• ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ฮอนด้าของท่าน:

  เลขทะเบียน, VIN, หมายเลขผลิตภัณฑ์, หมายเลขเครื่อง, รุ่น, เกรด, รหัสรุ่น/เกรด, ตัวถัง, เกียร์, สี, ปีรถ, ปริมาตรกระบอกสูบ, น้ำหนัก, ประวัติการรับรถ, ประวัติการซ่อม, อุบัติเหตุ, อุปกรณ์ตกแต่ง ฯลฯ

• ข้อมูลการซื้อรถยนต์และใช้บริการ:

  การชำระเงิน, เลขบัญชี, บัตรเครดิต, ที่อยู่เรียกเก็บเงิน, ข้อมูลคำสั่งซื้อ, ข้อร้องเรียน, ข้อเสนอแนะ, การรับประกัน, บริการหลังการขาย, การยกเลิกสัญญา

• ข้อมูลการตลาด:

  จดหมายข่าว, ช่องทางสื่อสาร, การเข้าร่วมกิจกรรม, สิทธิพิเศษ, ความสนใจ, การสำรวจ, customer segmentation, ประวัติการใช้บริการ, ความพึงพอใจ, การตั้งค่าทางการตลาด

• ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร:

  ช่องทางติดต่อ, บันทึกการสื่อสาร, การโต้ตอบกับฮอนด้าออโตโมบิล

• ข้อมูลจากอุปกรณ์และเทคโนโลยี:

  ที่อยู่ IP, รหัสอุปกรณ์, ระบบปฏิบัติการ, เบราว์เซอร์, คุกกี้, ข้อมูลการท่องเว็บ, การใช้งานเว็บไซต์ ซึ่งอาจระบุตัวบุคคลได้เมื่อเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่น

• ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน:

  ศาสนา, หมู่โลหิต, เชื้อชาติ (จากเอกสารทางราชการหรือกรณีอื่น ๆ)

• ข้อมูลเกี่ยวกับการรับบริการเพิ่มเติม:

  บริการร้านกาแฟ, เคลือบแก้ว, หรือบริการอื่นที่อำนวยความสะดวก

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการทำประกันภัย

เฉพาะในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะทำประกันภัย เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม เพื่อเก็บ ใช้ และเปิดเผยไปยังบริษัทฮอนด้าออโตโมบิล อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ที่จะทำหน้าที่เป็นนายหน้าประกันภัยให้แก่ท่าน รวมถึงฮอนด้าออโตโมบิล และบริษัทในเครือของฮอนด้า บริษัทประกัน และผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง ตามแต่กรณีที่จำเป็นและเป็นไปตามกฎหมาย

ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมเพิ่มเติม

• ข้อมูลในการทำประกันภัย: สำเนาสมุดจดทะเบียนรถยนต์, ใบขับขี่, รายงานการตรวจสภาพรถ, รูปถ่ายรถ, เลขที่ใบสั่งจอง, หมายเลขกรมธรรม์, ใบกำกับภาษี, ข้อมูลทางการเงิน เช่น ช่องทางการชำระเงิน, บัญชีธนาคาร, บัตรเครดิต, ข้อมูลในโฉนด, บริษัทประกันภัยที่เลือก, แผนการคุ้มครอง, ค่าเบี้ย, ระยะเวลา, หนังสือรับรองต่างๆ, ข้อมูลคู่สมรสและบุตร, สูติบัตร, มรณะบัตร, หนังสือแต่งตั้งผู้จัดการมรดก, ผู้รับผลประโยชน์, ชื่อผู้ขับขี่, จำนวนเงินที่เอาประกันภัย, และสาเหตุการยกเลิกการใช้ผลิตภัณฑ์
• ข้อมูลการเรียกค่าสินไหม: รายงานอุบัติเหตุ, วันเวลา, รายละเอียดสภาพแวดล้อม, ค่าเสียหาย, สถานที่รายงาน, เอกสารเคลม, หมายเลขเคลม, เลขที่รับแจ้งเคลม
• ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน: ข้อมูลสุขภาพ, ประวัติอาชญากรรม, การใช้สารเสพติด, ความพิการ, เชื้อชาติ, ศาสนา, หมู่โลหิต (ตามเอกสารที่ราชการออกให้)

ข้อมูลใดก็ตามที่สามารถใช้ระบุตัวตนของท่านได้จะถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล และจะได้รับการจัดการตามหลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เราจะทำเช่นนั้นเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้

ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น

เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น คู่สมรส สมาชิกในครอบครัว ผู้รับผลประโยชน์จากประกันภัย ผู้ขับขี่รถ หรือผู้รับโอน หากท่านให้ข้อมูลของบุคคลดังกล่าว ท่านรับรองว่า:

1. แจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
2. ได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวหรืออาศัยฐานทางกฎหมายอื่น
3. ตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน และแจ้งเปลี่ยนแปลงเมื่อจำเป็น

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูล

• จัดหาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ
• ดำเนินการตามคำขอของท่าน เช่น การทดลองขับ การออกใบจอง
• เสนอขาย ติดตามการขาย และออกข้อตกลงการขาย
• ใช้ในการจัดการสิทธิประโยชน์จากแคมเปญและโปรโมชั่น

ทะเบียนรถยนต์ สร้างโปรไฟล์ของท่านในระบบให้บริการ เพื่อนำออกใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงินให้กับท่าน อำนวยความสะดวกในการขอสินเชื่อและทำประกันรถยนต์ และดำเนินการเพื่อให้บริการตามความต้องการของท่านที่แจ้งแก่เรา

วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

• เพื่อการบริการหลังการขาย เช่น ติดตามการเปลี่ยนอะไหล่ การรับประกัน และบริการอื่นตามความต้องการ
• เพื่อการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า รวมถึงการติดต่อสื่อสาร การต่ออายุ หรือบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง
• เพื่อการพัฒนาและการบริการ เช่น วิเคราะห์พฤติกรรม ปรับปรุงระบบ และพัฒนาบริการใหม่
• เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การเสนอโปรโมชัน การสื่อสาร การโฆษณาเฉพาะบุคคล
• เพื่อการจัดการภายในองค์กร เช่น การจัดเก็บข้อมูลลูกค้า การประเมินความเสี่ยง การบริหารองค์กร
• เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น คำสั่งศาล หน่วยงานรัฐ ใบสั่ง หรือข้อกำหนดทางกฎหมายอื่น
• เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเราและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น การดำเนินคดี ตรวจสอบฉ้อฉล การป้องกันการละเมิด
• เพื่อการบริหารจัดการธุรกิจ เช่น การควบรวมกิจการ การซื้อขาย หรือโอนข้อมูลลูกค้า
• เพื่อการป้องกันอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพของบุคคล
• เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่เกี่ยวข้องกับข้อข้างต้น เช่น การวางแผน วิเคราะห์สถิติ
• ตามคำร้องขอของท่าน เช่น บริการรับพัสดุ การสื่อสาร หรือบริการเฉพาะทาง

วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูล

• การทำประกันภัย เพื่อเสนอ ใช้ และพิจารณาให้ บริษัท ฮอนด้าออโตโมบิล อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้บริการในฐานะนายหน้าประกันภัย รวมถึงฮอนด้าออโตโมบิล และบริษัทในเครือของฮอนด้า บริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ตามแต่กรณีที่เกี่ยวเนื่องตามกฎหมาย เพื่อประกอบการพิจารณารับประกันภัย การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ฯลฯ
• การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับประกันภัย เช่น การติดต่อแจ้งเตือนเข้ารับบริการ เตือนสิทธิประโยชน์ หรือส่งต่อข้อมูลไปยังบริษัทนายหน้าประกันภัยในเครือฮอนด้า

3.2 ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โดยทั่วไป เราใช้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

• ท่านให้ความยินยอมกับเรา (ยกเว้นข้อยกเว้นตามกฎหมาย)
• เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของฮอนด้า
• เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
• เพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บริการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น เว้นแต่ระบุว่าเป็นข้อมูลที่สมัครใจ หากไม่ให้ข้อมูล อาจไม่ได้รับบริการตามที่เกี่ยวข้อง

4. ผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ

หากมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของผู้เยาว์ หรือผู้ไร้ความสามารถ จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง หรือในกรณีผู้เยาว์ที่สมรสโดยชอบด้วยกฎหมาย จะใช้ข้อมูลอื่นที่พอรับฟังได้ว่าได้รับความยินยอมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

5. บุคคลที่เราแบ่งปันและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอกตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ ดังต่อไปนี้

6. การโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ

เราอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ โดยเราอาจจะดำเนินการขั้นตอนดังกล่าวไปโดยได้รับความยินยอมจากท่าน หรือในฐานที่เรามีสิทธิเพื่อประโยชน์โดยชอบตามกฎหมาย (เช่น เพื่อการปฏิบัติตามข้อสัญญา) ทั้งนี้ เท่าที่ได้รับอนุญาตตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ในกรณีที่เราจำต้องได้รับความยินยอมจากท่านในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศ และข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนั้นถูกโอนไปยังประเทศปลายทางที่รับข้อมูลซึ่งอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยนั้น เราจะดำเนินการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกโอนไปยังบุคคลอื่นนอกประเทศให้เทียบเท่ากับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้ดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองส่วนบุคคลได้กำหนดและมีผลบังคับใช้ ณ ขณะนั้น

7. การรักษาความปลอดภัย

เราใช้มาตรการทางองค์กร เทคนิค กายภาพและการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการถูกทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือการเปิดเผยโดยอุบัติเหตุ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งครอบคลุมถึงการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อชำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้การควบคุมของเรา ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด

เราได้จัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เรายังได้วางมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายให้เข้าข้อมูล และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

นอกจากนี้ เรายังได้วางมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล

8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานกว่านั้นตามความจำเป็นอื่นๆ อาทิเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัทฯ เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

ในกรณีที่เราไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป เราจะทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกจากระบบและบันทึกต่างๆ ของเรา และ/หรือจะดำเนินการตามความจำเป็นเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้อีกต่อไป

ในกรณีที่มีการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ กระบวนการยุติธรรมหรือการดำเนินการทางวินัย เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้จนกว่ากระบวนการดังกล่าวจะยุติลง ซึ่งรวมถึงช่วงระยะเวลาที่อาจอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้ด้วย จากนั้นเราจึงจะดำเนินการลบหรือเก็บจดหมายเหตุข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ได้รับอนุญาตตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

9. สิทธิของท่านตามที่กฎหมายกำหนด

เมื่อกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับในประเทศไทยแล้ว ท่านมีสิทธิตามกฎหมายภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดในกฎหมายดังกล่าว ตามที่ปรากฏในรายละเอียดและเงื่อนไขดังต่อไปนี้

• สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล: ท่านมีสิทธิร้องขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเรา และร้องขอให้เปิดเผยการได้มาโดยปราศจากความยินยอมของท่าน
• สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิในการร้องขอให้เราดำเนินการแก้ไข ปรับปรุง และทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
• สิทธิในการร้องขอให้ลบ: ท่านมีสิทธิในการร้องขอให้เราลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เว้นแต่กฎหมายอนุญาตให้เรายังคงเก็บข้อมูลไว้
• สิทธิในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านได้โดยเครื่องมืออัตโนมัติ และอาจร้องขอให้เราโอนข้อมูลไปยังบุคคลอื่น ทั้งนี้อาจมีค่าบริการตามที่กฎหมายอนุญาต
• สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่เป็นการประมวลผลเพื่อดำเนินการตามสัญญาหรือภาระหน้าที่ตามกฎหมาย
• สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้เราระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี
• สิทธิในการถอนความยินยอม: ท่านสามารถถอนความยินยอมได้ตลอดเวลา เว้นแต่มีข้อจำกัดตามกฎหมายหรือสัญญา
• สิทธิในการร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานภาครัฐที่มีอำนาจ หากเราฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่คำขอของท่านเป็นการใช้สิทธิเหนือข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแลของฮอนด้าออโตโมบิล เราในฐานะผู้จำหน่ายอาจต้องส่งคำขอของท่านไปยังฮอนด้าออโตโมบิลเพื่อพิจารณา และจะแจ้งให้ท่านทราบหากดำเนินการเช่นนั้น

10. การติดต่อเรา

หากท่านมีข้อสงสัย คำถาม หรือข้อร้องเรียนใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือประสงค์จะใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีผลบังคับในประเทศไทย ท่านสามารถติดต่อเราได้ที่: